Part 7
ก้องเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.3 แม่เป็นคนขับรถไปส่งก้องทุกเช้าและรับก้องทุกเย็น ต่อมาพอก้องโตขึ้นหน่อยก็ได้กลับกับรถเพื่อนบ้านที่มีลูกอยู่คริสเตียนเหมือนกัน หรือบางครั้งอาจกลับรถเมล์ และในบางช่วงก็ให้ก้องไปกลับกับรถของคุณครูที่คริสเตียน ซึ่งเป็นนักเรียนเก่ามาแตร์ฯ รุ่นพี่ของแม่ ชื่อคุณครูนวลศิริ ก้องต้องนั่งรถคุณครูทั้งไปและกลับวันละหลายชั่วโมง เพราะคุณครูมีเด็กกลับด้วยหลายคน แม่สงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งแม่ทิ้งก้องไปเที่ยวอังกฤษตั้ง 21 วัน มีของฝากกลับมาให้ก้องคือเสื้อยืดที่มีชื่อ SAHARAT พิมพ์อยู่ด้านหน้า ทำให้ที่ห้างแฮรอดส์ ลอนดอน แต่พอกลับมา ก้องโกรธแม่น่าดู แม้แต่ตอนที่ใส่เสื้อตัวนี้ถ่ายรูปยังหน้าบึ้งอยู่เลย แหม ให้ได้อย่างนี้สิลูกชายเรา
พูดมาถึงตรงนี้ ความคิดเลยเถิดไปถึงเรื่อง การซื้อของเล่นให้ลูก แม่ได้พบพ่อแม่หลายคนที่มีความคิดว่า ซื้อหนังสือเรียน ซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น ดีกว่าซื้อของเล่นให้ลูก เพราะคิดว่าเปล่าประโยชน์ เล่นๆ ไปเดี๋ยวก็พัง หรือโตแล้วไม่ควรเล่นของเล่น หรือถ้าให้ของเล่นเดี๋ยวลูกไม่ดูหนังสือเรียน อย่างนี้เขาเรียกว่า พ่อแม่โง่ เห็นแก่ตัว
ชีวิตของคนเรา ถ้าจะให้มีความสุขครบถ้วน ควรมีเวลาทั้งเรียน ทั้งทำงาน และทั้งเล่น
มีรสชาติพร้อมทุกรส ทั้งรสชาติของความสุขและทุกข์
ของเล่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กอย่างยิ่ง
ของเล่นทำให้เด็กหายเครียดจากการเรียนหนังสือ หายเครียดจากคำบ่นของพ่อแม่และคุณครู หายเครียดจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
ของเล่นทำให้เด็กเกิดจินตนาการ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พูดว่า Immagination is more important than knowledge แปลว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”
เช่น คิดว่าหรือฝันว่าจะต้องเป็นเจ้าของรถเบนซ์ราคาเป็นล้าน ก็ต้องพยายามหาเงินล้านมาซื้อรถเบนซ์ ทำอย่างไรจึงจะหาเงินได้เป็นล้าน ก็ต้องศึกษา ลงมือทำ และฉลาด การจะได้รถเบนซ์หรือไม่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญเพราะคนทุกคนไม่โชคดีเสมอไป แต่สิ่งที่คนคนนั้นได้คือประสบการณ์ในการศึกษาค้นคว้า และทำเพื่อให้ได้มาคือ รถเบนซ์
ถ้าลูกของคุณชอบของเล่นอะไร พยายามให้เขาเถอะ นอกจากว่าของเล่นชิ้นนั้นมันอาจทำให้เกิดอันตราย แต่ถ้าเขาจะเอาให้ได้ก็เอาให้ โดยเราคอยดูอยู่ห่างๆ เพราะถ้าเกิดอันตรายขึ้นเขาอาจจะเจ็บ จะรึ้ก และจำว่าถูกห้ามแล้วแต่ไม่เชื่อจึงต้องเจ็บ จะได้ไม่ทำอีก
การที่เด็กอยากได้ของเล่นเป็นรถ เขาอาจจะเป็นช่างแก้รถ คนขายรถ เจ้าของบริษัทที่เกี่ยวกับรถในอนาคต
เด็กที่ชอบวาดเขียน ก็ต้องเป็นศิลปินแขนงใดแขนงหนึ่ง
เด็กที่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ก็คงเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง
แต่กรรมของเด็กบางคนที่พ่อแม่อ้างว่าจน ไม่มีเงินซื้อของเล่นให้ลูก แต่ในเวลาเดียวกันทั้งพ่อและแม่อ้วนพุงพลุ้ยทั้งคู่ อาจทำให้เด็กคนนั้นมีปมด้อย พอโตขึ้นหาเงินได้เองแล้วก็จะซื้อทุกอย่างสนองความต้องการ ความอยาก ทดแทนกับความรู้สึกตอนเด็กๆ ที่อยากได้อะไรแล้วไม่เคยได้
และเมื่อนั้น ความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้นกับชีวิตของลูกคุณ เหตุเพราะคุณพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้ของเล่น และยัดเยียดสิ่งที่คุณคิดว่าลูกคุณต้องการนั่นเอง
第7集
Kong在“曼谷基督教学校”上小学和初中期间,起初都是由妈妈亲自骑车接送他,后来妈妈才拜托了一位在“曼谷基督教学校”里当老师的朋友——Nualsiri,让Kong 跟着她一起上下学。
在妈妈负责接送Kong的时候,每天他都很耐心地坐在长途车行等妈妈过来。虽然妈妈也很舍不得kong每天都要一个人坐等她很久,但是妈妈也无可奈何。其实kong有很多同路的同学,直到上中学,妈妈才放心让Kong 和一个邻居的同学一起坐公共汽车上学。
记得有一次妈妈去英国没有带Kong. 旅游了21 天, 回来还给他买了一件T-Shirt. 上面特殊印着一个字 “ SAHARAT”. 由 Harrods London 逛商场特地搞出来。 Kong 非常生妈妈的气 他穿上T-Shirt 拍照时也还在赌气 一点没看到他的笑容 唉!我这个孩子呢!
ก้องเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.3 แม่เป็นคนขับรถไปส่งก้องทุกเช้าและรับก้องทุกเย็น ต่อมาพอก้องโตขึ้นหน่อยก็ได้กลับกับรถเพื่อนบ้านที่มีลูกอยู่คริสเตียนเหมือนกัน หรือบางครั้งอาจกลับรถเมล์ และในบางช่วงก็ให้ก้องไปกลับกับรถของคุณครูที่คริสเตียน ซึ่งเป็นนักเรียนเก่ามาแตร์ฯ รุ่นพี่ของแม่ ชื่อคุณครูนวลศิริ ก้องต้องนั่งรถคุณครูทั้งไปและกลับวันละหลายชั่วโมง เพราะคุณครูมีเด็กกลับด้วยหลายคน แม่สงสารแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งแม่ทิ้งก้องไปเที่ยวอังกฤษตั้ง 21 วัน มีของฝากกลับมาให้ก้องคือเสื้อยืดที่มีชื่อ SAHARAT พิมพ์อยู่ด้านหน้า ทำให้ที่ห้างแฮรอดส์ ลอนดอน แต่พอกลับมา ก้องโกรธแม่น่าดู แม้แต่ตอนที่ใส่เสื้อตัวนี้ถ่ายรูปยังหน้าบึ้งอยู่เลย แหม ให้ได้อย่างนี้สิลูกชายเรา
พูดมาถึงตรงนี้ ความคิดเลยเถิดไปถึงเรื่อง การซื้อของเล่นให้ลูก แม่ได้พบพ่อแม่หลายคนที่มีความคิดว่า ซื้อหนังสือเรียน ซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น ดีกว่าซื้อของเล่นให้ลูก เพราะคิดว่าเปล่าประโยชน์ เล่นๆ ไปเดี๋ยวก็พัง หรือโตแล้วไม่ควรเล่นของเล่น หรือถ้าให้ของเล่นเดี๋ยวลูกไม่ดูหนังสือเรียน อย่างนี้เขาเรียกว่า พ่อแม่โง่ เห็นแก่ตัว
ชีวิตของคนเรา ถ้าจะให้มีความสุขครบถ้วน ควรมีเวลาทั้งเรียน ทั้งทำงาน และทั้งเล่น
มีรสชาติพร้อมทุกรส ทั้งรสชาติของความสุขและทุกข์
ของเล่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กอย่างยิ่ง
ของเล่นทำให้เด็กหายเครียดจากการเรียนหนังสือ หายเครียดจากคำบ่นของพ่อแม่และคุณครู หายเครียดจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
ของเล่นทำให้เด็กเกิดจินตนาการ
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พูดว่า Immagination is more important than knowledge แปลว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”
เช่น คิดว่าหรือฝันว่าจะต้องเป็นเจ้าของรถเบนซ์ราคาเป็นล้าน ก็ต้องพยายามหาเงินล้านมาซื้อรถเบนซ์ ทำอย่างไรจึงจะหาเงินได้เป็นล้าน ก็ต้องศึกษา ลงมือทำ และฉลาด การจะได้รถเบนซ์หรือไม่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญเพราะคนทุกคนไม่โชคดีเสมอไป แต่สิ่งที่คนคนนั้นได้คือประสบการณ์ในการศึกษาค้นคว้า และทำเพื่อให้ได้มาคือ รถเบนซ์
ถ้าลูกของคุณชอบของเล่นอะไร พยายามให้เขาเถอะ นอกจากว่าของเล่นชิ้นนั้นมันอาจทำให้เกิดอันตราย แต่ถ้าเขาจะเอาให้ได้ก็เอาให้ โดยเราคอยดูอยู่ห่างๆ เพราะถ้าเกิดอันตรายขึ้นเขาอาจจะเจ็บ จะรึ้ก และจำว่าถูกห้ามแล้วแต่ไม่เชื่อจึงต้องเจ็บ จะได้ไม่ทำอีก
การที่เด็กอยากได้ของเล่นเป็นรถ เขาอาจจะเป็นช่างแก้รถ คนขายรถ เจ้าของบริษัทที่เกี่ยวกับรถในอนาคต
เด็กที่ชอบวาดเขียน ก็ต้องเป็นศิลปินแขนงใดแขนงหนึ่ง
เด็กที่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ก็คงเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง
แต่กรรมของเด็กบางคนที่พ่อแม่อ้างว่าจน ไม่มีเงินซื้อของเล่นให้ลูก แต่ในเวลาเดียวกันทั้งพ่อและแม่อ้วนพุงพลุ้ยทั้งคู่ อาจทำให้เด็กคนนั้นมีปมด้อย พอโตขึ้นหาเงินได้เองแล้วก็จะซื้อทุกอย่างสนองความต้องการ ความอยาก ทดแทนกับความรู้สึกตอนเด็กๆ ที่อยากได้อะไรแล้วไม่เคยได้
และเมื่อนั้น ความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้นกับชีวิตของลูกคุณ เหตุเพราะคุณพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้ของเล่น และยัดเยียดสิ่งที่คุณคิดว่าลูกคุณต้องการนั่นเอง
第7集
Kong在“曼谷基督教学校”上小学和初中期间,起初都是由妈妈亲自骑车接送他,后来妈妈才拜托了一位在“曼谷基督教学校”里当老师的朋友——Nualsiri,让Kong 跟着她一起上下学。
在妈妈负责接送Kong的时候,每天他都很耐心地坐在长途车行等妈妈过来。虽然妈妈也很舍不得kong每天都要一个人坐等她很久,但是妈妈也无可奈何。其实kong有很多同路的同学,直到上中学,妈妈才放心让Kong 和一个邻居的同学一起坐公共汽车上学。
记得有一次妈妈去英国没有带Kong. 旅游了21 天, 回来还给他买了一件T-Shirt. 上面特殊印着一个字 “ SAHARAT”. 由 Harrods London 逛商场特地搞出来。 Kong 非常生妈妈的气 他穿上T-Shirt 拍照时也还在赌气 一点没看到他的笑容 唉!我这个孩子呢!
ท่ายืนนี้ เป็นมาแต่ยังเล็กเลยนะนี่ น่ารักซ่ะ
ReplyDeleteเป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิดคร๊าบ
ReplyDeleteผมเคยเรียนหัองเดียวกับก้องตอน ป.3/3 ห้องครูยุพิน รัตนไพรวัลครับ
ReplyDelete